แฟ้มสะสมงานรายวิชาการจัดประสบการณ์ทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2556
งานวิจัย
สรุปงานวิจัย
ชื่องานวิจัย
การพัฒนาทักษะทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมาวัยโดยใช้รูปแบบกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้
ผู้วิจัย คมขวัญ อ่อนบึงพร้าว
ความมุ่งหมายของการวิจัย เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้
ความสำคัญของการวิจัยการ วิจัยครั้งนี้เป็นแนวทางของการใช้นวัตกรรม
การเรียนการสอนด้วยกระบวนการวิธีของศิลปะรูปแบบต่างๆ มาประยุกต์เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยซึ่งผลการวิจัยเป็นแนวทางให้กับครูและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กได้พัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์ใหม่ๆให้กับเด็กปฐมวัย
เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัยและเกิดความหลากหลายในวิชาการศึกษาสำหรับครูมากขึ้น
สรุปผลการวิจัย ผลการวิจัยพบว่า
การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยหลังการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในรูปแบบกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้
มีทักษะพื้นฐานทารงคณิตศาสตร์โดยรวมและจำแนกรายทักษะมีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นและอยู่ในระดับดีเมื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังการทดลองมีคะแนนความสามรถทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.01
ทักษะคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
การส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ให้แก่
เด็กปฐมวัยนั้นครูหรือผู้เกี่ยวข้องควรทราบว่ามีทักษะจำเป็นอะไรบ้างที่เด็กปฐมวัย
ควรได้รับการส่งเสริมและพัฒนาเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเรียน
คณิตศาสตร์ของเด็กต่อไป ทักษะที่เด็กปฐมวัยควรได้รับการส่งเสริมและพัฒนานั้น
อาจแบ่งเป็น ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ และทักษะพื้นฐานการคิดคำนวณ
ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ที่จำเป็นสำหรับเด็กปฐมวัยมี 7 ทักษะ ได้แก่
1. ทักษะการสังเกต(Observation)
คือการใช้ประสาทสัมผัสในการเรียนรู้ โดยเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์โดย
ตรงกับวัตถุสิ่งของหรือเหตุการณ์อย่างมีจุประสงค์ เช่น การจะหาข้อมูลที่เป็น
รายละเอียดของสิ่งนั้น ๆ โดยไม่ใส่ความคิดเห็นของตนเองลงไป
2. ทักษะการจำแนกประเภท(Classifying)
คือ ความสามารถในการแบ่งประเภทของสิ่งของ โดยหาเกณฑ์หรือ
สร้างเกณฑ์ในการแบ่งขึ้น ส่วนใหญ่เด็กจะใช้เกณฑ์ในการจำแนกอยู่ 3 อย่าง
คือ ความเหมือน ความแตกต่าง และความสัมพันธ์ร่วม ซึ่งแล้วแต่เด็กจะเลือกใช้
(ดังนั้นครุควรถามเมื่อจัดกิจกรรมทั้งนี้เพื่อให้ประเมินเด็กได้อย่างถูกต้อง)
ซึ่งเด็กปฐมวัยส่วนใหญ่จะเลือกใช้เกณฑ์ 2 อย่าง คือ ความเหมือน และความต่าง
เมื่อเด็กสามารถสร้างความเข้าใจได้อย่างถ่องแท้เกี่ยวกับความสัมพันธ์แล้ว
เด็กจึงจะจำแนกโดยใช้ความสัมพันธ์ร่วมได้
3. ทักษะการเปรียบเทียบ(Comparing)
คือ การที่เด็กต้องอาศัยความสัมพันธ์ของวัตถุสิ่งของหรือเหตุการณ์
ตั้งแต่สองสิ่งขึ้นไป บนพื้นฐานของคุณสมบัติที่มีลักษณะเฉพาะอย่าง เช่น
เด็กสามารถบอกได้ว่าลูกบอลลูกหนึ่งมีขนาดเล็กกว่าลูกอีกลูกหนึ่ง นั่นแสดง
ให้เห็นว่า เด็กเห็นความสัมพันธ์ของลูกบอล คือ เล็ก - ใหญ่ ความสำคัญใน
การเปรียบเทียบ คือ เด็กจะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของสิ่งนั้น ๆ
และรู้จักคำศัพท์คณิตศาสตร์ การเปรียบเทียบนับว่าเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการเรียน
ในเรื่องการวัดและการจัดลำดับ
4. ทักษะการจัดลำดับ(Ordering)
คือ การส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการ
จัดลำดับวัตถุสิ่งของหรือเหตุการณ์ ซึ่งเป็นทักษะการเปรียบขั้นสูง เพราะจะต้องอาศัย
การเปรียบเทียบสิ่งของมากกว่าสองสิ่งหรือสองกลุ่ม การจัดลำดับในครั้งแรก ๆ
ของเด็กปฐมวัยจะเป็นไปในลักษณะการจัดกระทำกับสิ่งของสองสิ่ง เมื่อเกิดการพัฒนา
จนเกิความเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วเด็กจึงจะสามารถจัดลำดับที่ยากยิ่งขึ้นได้
5. ทักษะการวัด(Measurement)
เมื่อเด็กมีประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดประเภท การเปรียบเทียบ และ
การจัดลำดับมาแล้ว เด็กจะพัฒนาความสามารถเข้าสู่เรื่องการวัดได้ ความสามารถ
ในการวัดของเด็ก จะมีความสัมพันธ์กับความสามารถใสนการอนุรักษ์(ความคงที่)
เช่น เด็กสามารถเข้าใจเกี่ยวกับความยาวของเชือกได้ว่า เชือกจะมีความยาวเท่าเดิม
ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนทิศทางหรือตำแหน่งก็ตาม
6. ทักษะการนับ(Counting)
แนวคิดเกี่ยวกับการนับจำนวน ได้แก่ การนับปากเปล่า บอกขนาดของ
กลุ่มที่มีขนาดเท่ากันโดยไม่ต้องนับ นับโดยใช้ลำดับที่นับจำนวนเพิ่มขึ้น นับเพื่อรู้
จำนวนที่มีอยู่ การจดตัวเลข การนับและเข้าใจความหมายของจำนวน การใช้สัญลักษณ์
แทนจำนวน ในเด็กปฐมวัยชอบการนับแบบท่องจำโดยไม่เข้าใจความหมาย การนับแบบ
ท่องจำนี้จะมีความหมายต่อเมื่อเชื่อมโยงกับจุดประสงค์บางอย่าง เช่น การนับจำนวน
เพื่อนในห้องเรียน นับขนมที่อยู่ในมือ แต่การนับของเด็กอาจสับสนได้หากมีการจัดเรียง
สิ่งของเสียใหม่ เมื่อเด็กเข้าใจเรื่องการอนุรักษ์(จำนวน)แล้วเด็กปฐมวัยจึงจะสามารถ
เข้าใจเรื่องการนับจำนวนอย่างมีความหมาย
7. ทักษะเกี่ยวกับเรื่องรูปทรงและขนาด(Sharp and Size)
เรื่องขนาดและรูปทรงจะเกิดขึ้นกับเด็กโดยง่าย ทั้งนี้เนื่องจากเด็กคุ้นเคย
จากการเล่น การจับต้องสิ่งของ ของเล่น หรือวัตถุรูปทรงต่าง ๆ อยู่เสมอในแต่ละวัน
เราจึงมักจะได้ยินเด็กพูดถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับรูปทรงหรือขนาดอยู่เสมอ ครูสามารถ
ทดสอบว่าเด็กรู้จักรูปทรงหรือไม่ได้โดยการให้เด็กหยิบ/เลือก สิ่งของตามคำบอก
เมื่อเด็กรูปจักรูปทรงพื้นฐานแล้วครูสามารถสอนให้เด็กรู้จักรูปทรงที่ยากขึ้นได้
ทักษะพื้นฐานในการคิดคำนวณ สำหรับเด็กปฐมวัยอาจแบ่งได้ 3 ทักษะ
1. ทักษะในการจัดหมู่
2. ทักษะในการรวมหมู่(การเพิ่ม)
3. ทักษะในการแยกหมู่(การลด)
สรุปมาตรฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
เด็กปฐมวัยนั้นครูหรือผู้เกี่ยวข้องควรทราบว่ามีทักษะจำเป็นอะไรบ้างที่เด็กปฐมวัย
ควรได้รับการส่งเสริมและพัฒนาเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเรียน
คณิตศาสตร์ของเด็กต่อไป ทักษะที่เด็กปฐมวัยควรได้รับการส่งเสริมและพัฒนานั้น
อาจแบ่งเป็น ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ และทักษะพื้นฐานการคิดคำนวณ
ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ที่จำเป็นสำหรับเด็กปฐมวัยมี 7 ทักษะ ได้แก่
1. ทักษะการสังเกต(Observation)
คือการใช้ประสาทสัมผัสในการเรียนรู้ โดยเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์โดย
ตรงกับวัตถุสิ่งของหรือเหตุการณ์อย่างมีจุประสงค์ เช่น การจะหาข้อมูลที่เป็น
รายละเอียดของสิ่งนั้น ๆ โดยไม่ใส่ความคิดเห็นของตนเองลงไป
2. ทักษะการจำแนกประเภท(Classifying)
คือ ความสามารถในการแบ่งประเภทของสิ่งของ โดยหาเกณฑ์หรือ
สร้างเกณฑ์ในการแบ่งขึ้น ส่วนใหญ่เด็กจะใช้เกณฑ์ในการจำแนกอยู่ 3 อย่าง
คือ ความเหมือน ความแตกต่าง และความสัมพันธ์ร่วม ซึ่งแล้วแต่เด็กจะเลือกใช้
(ดังนั้นครุควรถามเมื่อจัดกิจกรรมทั้งนี้เพื่อให้ประเมินเด็กได้อย่างถูกต้อง)
ซึ่งเด็กปฐมวัยส่วนใหญ่จะเลือกใช้เกณฑ์ 2 อย่าง คือ ความเหมือน และความต่าง
เมื่อเด็กสามารถสร้างความเข้าใจได้อย่างถ่องแท้เกี่ยวกับความสัมพันธ์แล้ว
เด็กจึงจะจำแนกโดยใช้ความสัมพันธ์ร่วมได้
3. ทักษะการเปรียบเทียบ(Comparing)
คือ การที่เด็กต้องอาศัยความสัมพันธ์ของวัตถุสิ่งของหรือเหตุการณ์
ตั้งแต่สองสิ่งขึ้นไป บนพื้นฐานของคุณสมบัติที่มีลักษณะเฉพาะอย่าง เช่น
เด็กสามารถบอกได้ว่าลูกบอลลูกหนึ่งมีขนาดเล็กกว่าลูกอีกลูกหนึ่ง นั่นแสดง
ให้เห็นว่า เด็กเห็นความสัมพันธ์ของลูกบอล คือ เล็ก - ใหญ่ ความสำคัญใน
การเปรียบเทียบ คือ เด็กจะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของสิ่งนั้น ๆ
และรู้จักคำศัพท์คณิตศาสตร์ การเปรียบเทียบนับว่าเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการเรียน
ในเรื่องการวัดและการจัดลำดับ
4. ทักษะการจัดลำดับ(Ordering)
คือ การส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการ
จัดลำดับวัตถุสิ่งของหรือเหตุการณ์ ซึ่งเป็นทักษะการเปรียบขั้นสูง เพราะจะต้องอาศัย
การเปรียบเทียบสิ่งของมากกว่าสองสิ่งหรือสองกลุ่ม การจัดลำดับในครั้งแรก ๆ
ของเด็กปฐมวัยจะเป็นไปในลักษณะการจัดกระทำกับสิ่งของสองสิ่ง เมื่อเกิดการพัฒนา
จนเกิความเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วเด็กจึงจะสามารถจัดลำดับที่ยากยิ่งขึ้นได้
5. ทักษะการวัด(Measurement)
เมื่อเด็กมีประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดประเภท การเปรียบเทียบ และ
การจัดลำดับมาแล้ว เด็กจะพัฒนาความสามารถเข้าสู่เรื่องการวัดได้ ความสามารถ
ในการวัดของเด็ก จะมีความสัมพันธ์กับความสามารถใสนการอนุรักษ์(ความคงที่)
เช่น เด็กสามารถเข้าใจเกี่ยวกับความยาวของเชือกได้ว่า เชือกจะมีความยาวเท่าเดิม
ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนทิศทางหรือตำแหน่งก็ตาม
6. ทักษะการนับ(Counting)
แนวคิดเกี่ยวกับการนับจำนวน ได้แก่ การนับปากเปล่า บอกขนาดของ
กลุ่มที่มีขนาดเท่ากันโดยไม่ต้องนับ นับโดยใช้ลำดับที่นับจำนวนเพิ่มขึ้น นับเพื่อรู้
จำนวนที่มีอยู่ การจดตัวเลข การนับและเข้าใจความหมายของจำนวน การใช้สัญลักษณ์
แทนจำนวน ในเด็กปฐมวัยชอบการนับแบบท่องจำโดยไม่เข้าใจความหมาย การนับแบบ
ท่องจำนี้จะมีความหมายต่อเมื่อเชื่อมโยงกับจุดประสงค์บางอย่าง เช่น การนับจำนวน
เพื่อนในห้องเรียน นับขนมที่อยู่ในมือ แต่การนับของเด็กอาจสับสนได้หากมีการจัดเรียง
สิ่งของเสียใหม่ เมื่อเด็กเข้าใจเรื่องการอนุรักษ์(จำนวน)แล้วเด็กปฐมวัยจึงจะสามารถ
เข้าใจเรื่องการนับจำนวนอย่างมีความหมาย
7. ทักษะเกี่ยวกับเรื่องรูปทรงและขนาด(Sharp and Size)
เรื่องขนาดและรูปทรงจะเกิดขึ้นกับเด็กโดยง่าย ทั้งนี้เนื่องจากเด็กคุ้นเคย
จากการเล่น การจับต้องสิ่งของ ของเล่น หรือวัตถุรูปทรงต่าง ๆ อยู่เสมอในแต่ละวัน
เราจึงมักจะได้ยินเด็กพูดถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับรูปทรงหรือขนาดอยู่เสมอ ครูสามารถ
ทดสอบว่าเด็กรู้จักรูปทรงหรือไม่ได้โดยการให้เด็กหยิบ/เลือก สิ่งของตามคำบอก
เมื่อเด็กรูปจักรูปทรงพื้นฐานแล้วครูสามารถสอนให้เด็กรู้จักรูปทรงที่ยากขึ้นได้
ทักษะพื้นฐานในการคิดคำนวณ สำหรับเด็กปฐมวัยอาจแบ่งได้ 3 ทักษะ
1. ทักษะในการจัดหมู่
2. ทักษะในการรวมหมู่(การเพิ่ม)
3. ทักษะในการแยกหมู่(การลด)
สรุปมาตรฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
บันทึกการเรียน
ครั้งที่ 16 วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556
กิจกรรมการเรียนการสอน
1. เรื่องเสื้อสูท
2. การสอบนอกตาราง วันที่ 26 ก.พ. 2556
3. งานกีฬาสี - ปัจฉิม วันที่ 2 - 3 มี.ค. 2556
4. ศึกษาดูงานที่หนองคาย - ลาว วันที่ 6 - 8 มี.ค. 2556
5. มาตราฐาน สาระการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์
6. บล็อก
7. อาจารย์ให้นักศึกษาเขียนว่า ได้ความรู้อะไรบ้าง ได้ทักษะอะไรบ้างจากการเรียนวิชานี้ และวิธีการสอนในความเข้าใจของเราคืออะไร
2. การสอบนอกตาราง วันที่ 26 ก.พ. 2556
3. งานกีฬาสี - ปัจฉิม วันที่ 2 - 3 มี.ค. 2556
4. ศึกษาดูงานที่หนองคาย - ลาว วันที่ 6 - 8 มี.ค. 2556
5. มาตราฐาน สาระการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์
6. บล็อก
7. อาจารย์ให้นักศึกษาเขียนว่า ได้ความรู้อะไรบ้าง ได้ทักษะอะไรบ้างจากการเรียนวิชานี้ และวิธีการสอนในความเข้าใจของเราคืออะไร
วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556
บันทึกการเรียน
ครั้งที่ 15 วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556
กิจกรรมการเรียนการสอน
หน่วยเรื่อง
อวัยวะภายนอก
วันที่ 1
เด็กๆค่ะอวัยวะภายนอกที่เด็กๆมองเห็นมีอะไรบ้างค่ะ
เด็กยกมือตอบ
เเล้วครูก็จดลงบนกระดาน ตามที่เด็กบอก
วันที่ 2
พูดเรื่องลักษณะ รูปร่าง สี พื้นผิว ของอวัยวะ
เสร็จเเล้วก็ร่วมกันสรุป
วันที่ 3
-ร้องเพลง
ตาเรามีไว้ดู
ใช้คำถาม
ตามีไว้ทำอะไรค่ะ ดูอะไรได้บ้างค่ะ
หูเรามีไว้ทำอะไรค่ะ
ฟังอะไรได้บ้างค่ะ บอกครูสิค่ะว่า
จมูกมีไว้ทำอะไรค่ะ ปากละค่ะ
(ทำเป็นเเมป)
ไหนบอกครูสิค่ะว่า อวัยวะของเรามีหน้าที่อะไรกันบ้าง
-สรุป อวัยวะของเรามีหน้าที่เเตกต่างกัน
วันที่ 4
ประโยชน์ของอวัยวะ
(ผลที่จะได้รับ)
เพื่อนเล่านิทาน เเละก็มาสรุปว่า จมูกดมกลิ่น รู้ว่ากลิ่นหอม
(เเยกเเยะกลิ่นได้)
ถือของ
หอบสิ่งของ สามารถที่จะประกอบอาหารได้
วันที่ 5
รักษาความสะอาดของอัวยวะภาพนอก (มีภาพ)
ตา--ผงเข้าตา ผงเข้าตาให้รีบบอกพ่อ
เเม่ เด็กๆทายสิ พ่อ เเม่ จะทำอย่างไร
-สรุปตอนท้ายร่วมกับเด็กๆ
วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
บันทึกการเรียน
ครั้งที่ 14 วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2556
กิจกรรมการเรียนการสอน
กิจกรรมการเรียนการสอน
กลุ่มที่4 สอนหน่วยเรื่อง กระดุม
วันที่ 1 ชนิดของกระดุม ( มิ้งค์ )
นำเข้าสู่บทเรียนโดย1. ครูร้องเพลง
หลับตาเสีย อ่อนเพลียทั้งวัน
นอนหลับเเล้วฝัน เห็นเทวดา
มาร่ายมารำ งามขำโสภา
พอตื่นขึ้นมา เทวดาไม่มี
2.ครูเเจกภาพที่เป็นจิกซอ รูปกระดุม ให้เด็กเป็นบางคน
3. .ให้เด็กนำภาพที่ได้มาต่อหรือวางให้เกิดเป็นภาพที่สมบูรณ์
4. เด็กๆบอกคุณครูซิค่ะว่า เป็นภาพอะไร
ชนิดของกระดุม
กระดุมที่เด็กๆรู้จักมีอะไรบ้างค่ะ เด็กบอกเเละครูก็เขียนตามที่เด็กบอกไว้บนกระดาน
เด็กๆอยากทราบไหมค่ะว่าในขวดนี้มีกระดุมทั้งหมดกี่เม็ด
(อยู่ในการคาดคะเน คือการวัดเเบบไม่เป็นทางการ)
- ครูนับกระดุมในขวด
1 2 3 4 5 6 7
น้องปลาบอกว่ามี7 เม็ด เพื่อนๆปรบมือให้น้องปลาด้วยค่ะ
ไหนใครจะมาช่วยคุณครูหยิบเลขมากำกับไว้ค่ะ
-ครูมีกระดุมมา ซึ่งประกอบด้วยกระดุมที่มี4รู เเละ 1 รู
เด็กเเยกกระดุมที่มี 1 รู ออก ได้ 4 เม็ด เเละกระดุมที่มีมากกว่า 1 รู มี3เม็ด
วันที่ 2 ลักษณะของกระดุม ( ดิว )
กระดุมโลหะ กับ กระดุมอโลหะ จะรู้ได้อย่างไรจะต้องใช้เเม่เหล็กมาดูดเพื่อแยกกระดุม
วาดตารางสัมพันธ์
วันที่ 3 ประโยชน์ของกระดุม ( มิ้น )
อาจารย์ให้ไปแต่งนิทานเกี่ยวกับกระดุมที่สามารถนำมาเชี่อมโยงและสอดแทรกกับคณิตศาสตร์
วันที่ 4 วิธีการเก็บรักษากระดุม ( น้ำหวาน )
เก็บใส่กล่อง , กระปุก
1.เด็ก ๆ บอกครูสิค่ะว่าจะไปหาซื้อกระดุมได้ที่ไหน ?
2.เด็ก ๆ รู้ไหมค่ะว่ากระดุมสามารถทำให้เกิดอาชีพใดบ้าง ?
3.เด็ก ๆ รู้ไหมค่ะว่าจะต้องเก็บรักษากระดุมได้อย่างไรบ้าง ?
วันที่ 5 ข้อควรระวังของกระดุม ( ฝ้าย )
**ไม่ได้เข้าเรียน
วันที่ 1 ชนิดของกระดุม ( มิ้งค์ )
นำเข้าสู่บทเรียนโดย1. ครูร้องเพลง
หลับตาเสีย อ่อนเพลียทั้งวัน
นอนหลับเเล้วฝัน เห็นเทวดา
มาร่ายมารำ งามขำโสภา
พอตื่นขึ้นมา เทวดาไม่มี
2.ครูเเจกภาพที่เป็นจิกซอ รูปกระดุม ให้เด็กเป็นบางคน
3. .ให้เด็กนำภาพที่ได้มาต่อหรือวางให้เกิดเป็นภาพที่สมบูรณ์
4. เด็กๆบอกคุณครูซิค่ะว่า เป็นภาพอะไร
ชนิดของกระดุม
กระดุมที่เด็กๆรู้จักมีอะไรบ้างค่ะ เด็กบอกเเละครูก็เขียนตามที่เด็กบอกไว้บนกระดาน
เด็กๆอยากทราบไหมค่ะว่าในขวดนี้มีกระดุมทั้งหมดกี่เม็ด
(อยู่ในการคาดคะเน คือการวัดเเบบไม่เป็นทางการ)
- ครูนับกระดุมในขวด
1 2 3 4 5 6 7
น้องปลาบอกว่ามี7 เม็ด เพื่อนๆปรบมือให้น้องปลาด้วยค่ะ
ไหนใครจะมาช่วยคุณครูหยิบเลขมากำกับไว้ค่ะ
-ครูมีกระดุมมา ซึ่งประกอบด้วยกระดุมที่มี4รู เเละ 1 รู
เด็กเเยกกระดุมที่มี 1 รู ออก ได้ 4 เม็ด เเละกระดุมที่มีมากกว่า 1 รู มี3เม็ด
วันที่ 2 ลักษณะของกระดุม ( ดิว )
กระดุมโลหะ กับ กระดุมอโลหะ จะรู้ได้อย่างไรจะต้องใช้เเม่เหล็กมาดูดเพื่อแยกกระดุม
วาดตารางสัมพันธ์
วันที่ 3 ประโยชน์ของกระดุม ( มิ้น )
อาจารย์ให้ไปแต่งนิทานเกี่ยวกับกระดุมที่สามารถนำมาเชี่อมโยงและสอดแทรกกับคณิตศาสตร์
วันที่ 4 วิธีการเก็บรักษากระดุม ( น้ำหวาน )
เก็บใส่กล่อง , กระปุก
1.เด็ก ๆ บอกครูสิค่ะว่าจะไปหาซื้อกระดุมได้ที่ไหน ?
2.เด็ก ๆ รู้ไหมค่ะว่ากระดุมสามารถทำให้เกิดอาชีพใดบ้าง ?
3.เด็ก ๆ รู้ไหมค่ะว่าจะต้องเก็บรักษากระดุมได้อย่างไรบ้าง ?
วันที่ 5 ข้อควรระวังของกระดุม ( ฝ้าย )
**ไม่ได้เข้าเรียน
บันทึกการเรียน
ครั้งที่ 13 วันที่ 29 มกราคม 2556
กิจกรรมการเรียนการสอน
2.การแสดงร้องเพลง - รัตติยา ( จูน )
3.การแสดงโฆษณา - นิศาชล ( โบว์ ) , ละไม ( เปิ้ล )
4.พิธีกร - ลูกหยี , ซาร่า
5.การแสดงโชว์
- ลิปซิ่งเพลง - จุฑามาส , นีรชา
- เต้นประกอบเพลง - พลอยปภัส , เกตุวดี , มาลินี
- ละครใบ้ - ลูกหมี , จันทร์สุดา
- ตลก - ณัฐชา , แตง , ชวนชม
6.ผู้กำกับหน้าม้า - พวงทอง , นฎา
7.หน้าม้า - เพื่อน ๆ ที่เหลือจะต้องเป็นหน้าม้า
2.การลำดับเหตุการณ์
3.การทำตามแบบ
4.การบวก
กิจกรรมการเรียนการสอน
- อาจารย์ได้ให้นักศึกษา เข้าเรียนพร้อมกันทั้ง 2 เซกพร้อมกัน เพื่อเข้ามาพูดคุยสนทนาเกี่ยวกับเรื่องการทำกิจกรรม และแบ่งภาระหน้าที่ให้แต่ละคน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
2.การแสดงร้องเพลง - รัตติยา ( จูน )
3.การแสดงโฆษณา - นิศาชล ( โบว์ ) , ละไม ( เปิ้ล )
4.พิธีกร - ลูกหยี , ซาร่า
5.การแสดงโชว์
- ลิปซิ่งเพลง - จุฑามาส , นีรชา
- เต้นประกอบเพลง - พลอยปภัส , เกตุวดี , มาลินี
- ละครใบ้ - ลูกหมี , จันทร์สุดา
- ตลก - ณัฐชา , แตง , ชวนชม
6.ผู้กำกับหน้าม้า - พวงทอง , นฎา
7.หน้าม้า - เพื่อน ๆ ที่เหลือจะต้องเป็นหน้าม้า
- อาจารย์ให้ทุกคนช่วยกันสรุปกิจกรรมในวันนี้ว่าสามารถนำไปเชื่อมโยงกับคณิตศาสตร์ได้อย่างไร สามารถสรุป ได้ดังนี้
2.การลำดับเหตุการณ์
3.การทำตามแบบ
4.การบวก
บันทึกการเรียน
ครั้งที่ 12 วันที่ 22 มกราคม 2556
กิจกรรมการเรียนการสอน
กิจกรรมการเรียนการสอน
- อาจารย์พูดเรื่องการอ่านงานวิจัย และให้นักศึกษาไปอ่านและทำความเข้าใจงานวิจัยที่เกี่ยวกับคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยมาอย่างละเอียด
- อาจารย์ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มออกไปสอบสอน โดยสอนทีละคนคนละวันตามที่ได้รับมอบหมาย พร้อมทั้งอาจารย์ได้ให้คำแนะนำการสอนที่ถูกต้อง กลุ่มที่ได้ออกไปสอบสอนวันนี้มี 3 กลุ่ม ได้แก่
1.กลุ่ม ขนมไทย
2.กลุ่ม ข้าว
3.กลุ่ม กล้วย
บันทึกการเรียน
ครั้งที่ 11 วันที่ 15 มกราคม 2556
กิจกรรมการเรียนการสอน
กิจกรรมการเรียนการสอน
- อาจารย์ให้ออกไปสอบสอนเป็นรายกลุ่ม แต่เพื่อนสอบได้กลุ่มเดียวเพราะอาจารย์ต้องเข้าประชุม
บันทึกการเรียน
ครั้งที่ 10 วันที่ 8 มกราคม 2556
กิจกรรมการเรียนการสอน
สาระ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดคณิตศาสตร์ปฐมวัย : สสวท.
สาระที่ 1 : จำนวนและการดำเนินการ
คือ เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจำนวนและการใช้จำนวนในชิวิตประจำวัน
สาระที่ 2 : การวัด
คือ เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัดความยาว น้ำหนัก ปริมาณ เงิน เวลา
สาระที่ 3 : เรขาคณิต
คือ รู้จักใช้คำในการบอกทิศทาง ตำแหน่ง และระยะทาง
รู้จัก จำแนกรูปเรขาคณิต และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงรูปเรขาคณิตที่เกิดจากการกระทำ
สาระที่ 4 : พีชคณิต
คือ เข้าใจรูปแบบและความสัมพันธ์
สาระที่ 5 : การวิเคาระห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น
คือ รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับตนเองและสิ่งแวดล้อม และนำเสนอ
สาระที่ 6 : ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
หมายเหตุ - ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ได้แก่ การแก้ปัญหา การใช้เหตุผล การสื่อสาร การสื่อสารทางคณิตศาสตร์และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
มาตรฐาน คือ สิ่งที่ทุกคนยอมรับ
เกณฑ์ คือ ตัวชีวัดที่เป็นตัวเลข และเป็นที่ยอมรับ และมีคุณภาพ
สาระ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดคณิตศาสตร์ปฐมวัย : สสวท.
สาระที่ 1 : จำนวนและการดำเนินการ
คือ เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจำนวนและการใช้จำนวนในชิวิตประจำวัน
สาระที่ 2 : การวัด
คือ เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัดความยาว น้ำหนัก ปริมาณ เงิน เวลา
สาระที่ 3 : เรขาคณิต
คือ รู้จักใช้คำในการบอกทิศทาง ตำแหน่ง และระยะทาง
รู้จัก จำแนกรูปเรขาคณิต และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงรูปเรขาคณิตที่เกิดจากการกระทำ
สาระที่ 4 : พีชคณิต
คือ เข้าใจรูปแบบและความสัมพันธ์
สาระที่ 5 : การวิเคาระห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น
คือ รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับตนเองและสิ่งแวดล้อม และนำเสนอ
สาระที่ 6 : ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
หมายเหตุ - ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ได้แก่ การแก้ปัญหา การใช้เหตุผล การสื่อสาร การสื่อสารทางคณิตศาสตร์และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
มาตรฐาน คือ สิ่งที่ทุกคนยอมรับ
เกณฑ์ คือ ตัวชีวัดที่เป็นตัวเลข และเป็นที่ยอมรับ และมีคุณภาพ
บันทึกการเรียน
ครั้งที่ 9 วันที่ 1 มกราคม 2556
- หมายเหตุ
ไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจากเป็นวันหยุด เทศกาลปีใหม่
บันทึกการเรียน
ครั้งที่ 8วันที่ 25 ธันวาคม 2555
- หมายเหตุ
บันทึกการเรียน
ครั้งที่ 7 วันที่ 18 ธันวาคม 2555
- หมายเหตุ
บันทึกการเรียน
ครั้งที่ 6 วันที่ 11 ธันวาคม 2555
กิจกรรมการเรียนการสอน
กิจกรรมการเรียนการสอน
- อาจารย์ให้ส่งงานแผนการสอนที่ส่งงานไว้จากอาทิตย์ก่อนหน้า
- สั่งงานวิจัยที่เกี่ยวกับคณิตศาสตร์
- อาจารย์ให้ นศ. นำกล่องขึ้นมา แล้วตอบคำถาม
* เมื่อเห็นกล่องแล้วจะทำเป็นอะไร
* เมื่อเห็นกล่องแล้วจะทำอย่างไร ( สามารถเชื่อมโยงได้อย่างไร )
* เมื่อเห็นกล่องแล้วจะทำอย่างไร ( สามารถเชื่อมโยงได้อย่างไร )
- อาจารย์ให้ นศ. จับกลุ่มละ 10 คน แล้วให้นำกล่องที่นำมาช่วยกันต่อให้เป็นรูปร่างอะไรก็ได้โดยห้ามวางแผนหรือพูดคุยกันล่วงหน้า และอาจารย์จะถามกล่องของแต่ละคนว่าที่ได้วางกล่องใบไหนต่อจากเพื่อนแล้วคิดว่าจะต่อเป็นรูปอะไร
จากนั้นอาจารย์ก็ให้เอากล่องมารวมกันอีกครั้งแล้วให้มีการวางแผนกันล่วงหน้าว่าจะต่อกล่องทั้งหมดภายในกลุ่มให้เป็นรูปอะไร โดยกลุ่มของดิฉันสามารุต่อกล่องออกมาได้เป็นรูป "ช้าง"
- อาจารย์ให้ นศ. ทั้งหมดในห้องเรียนช่วยกันนำผลงานของแต่ละกลุ่มที่ทำ มาวางรวมกันให้เป็นอะไรก็ได้ตามความคิดสร้างสรรค์
ดังนั้น การสอนคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ควรสอนเด็กก่อนอายุ 6 ขวบ เนื่องจากวัยก่อนนี้จะเป็นวัยที่เก็บเกี่ยวความรู้ สามารถรับรู้ และซึมซับได้ด้วยตนเองมากกว่าหลังอายุ 6 ขวบ เนื่องจากหลังจากนี้เด็กจะขาดความมั่นใจในตัวเอง ไม่กล้าตัดสินใจจะทำอะไรด้วยคัวเอง มักชอบเลียนแบบผู้อื่น วิธีการเรียนรู้ที่ดีเด็กจะต้องได้เรียนรู้ด้วยตัวเองด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5
หู ตา จมูก ลิ้น และกายสัมผัส
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)